วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2559

แม่เหล็กไฟฟ้า




แม่เหล็กไฟฟ้า

     
      เมื่อกระแสไฟฟ้าผ่านไปในตัวนำไฟฟ้า  เช่นสายไฟ  จะมีสนามแม่เหล็กเกิดขึ้นรอบ ๆ  สายไฟ ทำให้เข็มทิศซึ่งวางใกล้สายไฟเบนไปจากตำแหน่งเดิมเพราะมีแรงจากสนามแม่เหล็กรอบสายไฟจะดูดเข็มทิศที่ปลายหนึ่งและผลัดเข็มทิศที่อีกปลายหนึ่ง ลวดทองแดงเคลือบฉนวนที่ถูกขดเป็นวงเรียบชิด  ๆ  กันต่อเนื่องกันไป เมื่อให้กระแสไฟฟ้าผ่านขดลวด  ถ้าขดลวดนี้พันรอบแท่งเหล็กแท่งเหล็กจะกลายเป็นแม่เหล็ก  ซึ่งเรียกว่า แม่เหล็กไฟฟ้าความรู้ที่กล่าวมานี้ นำไปใช้อธิบายกรณีตะปูเป็นแม่เหล็กไฟฟ้าในการทดลองแรงแม่เหล็กของแท่งแม่เหล็กไฟฟ้า มีค่าขึ้นกับจำนวนรอบของขดลวด  และปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ผ่านขดลวด

           หลักการของแม่เหล็กไฟฟ้านำไปใช้ทำปั้นจั่นยกของเพื่อดูดเศษเหล็กแยกออกจากเศษโลหะอื่น ๆ  กระดิ่งไฟฟ้าหรือออดไฟฟ้า
                เมื่อเปิดสวิตช์  กระแสไฟฟ้าจะผ่านขดลวดที่พันรอบแกนเหล็ก ทำให้แกนเหล็กเป็นแม่เหล็กดูดคันเคาะ  ซึ่งเป็นสารแม่เหล็กเข้ามากระทบกระดิ่งและเกิดเสียงดัง ขณะคันเคาะเคลื่อนเข้าหากระดิ่งคันเคาะจะไม่สัมผัสกับปลายแหลม เป็นเหตุให้วงจรไฟฟ้าเปิด ไม่มีกระแสไฟฟ้าไหลในวงจร แกนเหล็กกลับเป็นแม่เหล็กก็จะดูดคันเคาะเข้ามากระทบกระดิ่งและเกิดเสียงดังอีก  เหตุการณ์จะเกิดซ้ำไปซ้ำมา จนกว่าจะปิดสวิตช์ไม่มีไฟฟ้าไหลในวงจร
                การหาทิศของสนามแม่เหล็กรอบเส้นลวด ใช้มือขวากำรอบเส้นลวดตัวนำและให้หัวแม่มือชี้ไปทางทิศของกระแสไฟฟ้า  นิ้วที่เหลือทั้งสี่นิ้วแสดงทิศของสนามแม่เหล็ก   ในทิศทวนเข็มนาฬิกา  รอบลวดตัวนำ
                การหาทิศของสนามแม่เหล็กของขดลวดก็ใช้มือขวาได้เช่นกันโดยให้มือขวากำขดลวดหรือวงลวดวงใดวงหนึ่ง  ส่วนนิ้วหัวแม่มือให้ชี้ไปทางทิศของกระแสไฟฟ้า นิ้วที่เหลือสี่นิ้วจะชี้ทิศของสนามแม่เหล็กจากรูปขดลวด จะปรากฏว่า ขั้วเหนือ (N)  ของแม่เหล็กไฟฟ้าอยู่ทางซ้าย และขั้วใต้ (S)  อยู่ทางขวา

             

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น